ธรณีสาร รักษาโรค แผลในปาก เหงือกบวม ปวดฟัน
ชื่อวิทยาศาสตร์ Phyllanthus pulcher Wallich ex Muell. Arg.
ชื่อวงศ์ EUPHORBIACEAE
ชื่อภาษาอังกฤษ Tropical leaf-flower
ชื่ออื่น เสนียด, ธรณีสาร(กลาง), กระทืบยอบ(ชุมพร), ก้างปลาดิน, ดอกใต้ใบ
(นครศรีธรรมราช), คดทราย (สงขลา), ก้างปลาแดง, ครีบยอด (สุราษฎร์ธานี),
ก้างปลา(นราธิวาส), มะขามป้อมดิน(เชียงใหม่)
ลักษณะทั่วไป
ธรณีสาร เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก สูง 1-1.5 เมตร เปลือกต้นเรียบ สีน้ำตาล มีรอย
แผลใบชัดเจน ใบ เป็นใบเดี่ยวออกเรียงสลับ ประมาณ 15-30 คู่ รูปรีแกมขอบ
ขนาน กว้าง 0.8-1.3 ซม. ยาว 1.5-2.5 ซม. โคนใบเบี้ยวปลายใบมน ขอบใบเรียบ
หลังใบและท้องใบเรียบ สีเขียว ดอก ดอกแยกเพศอยู่ต้นเดียวกันดอกเพศผู้ออก
เป็นกระจุก ตามซอกใบ กลีบดอกมี 4 กลีบ ดอกเพศเมียออกตามซอกใบในส่วน
ของก้านใบ ดอกห้อยลง กลีบดอกมี 6 กลีบโคนติดกันสีม่วงแดงปลายแหลมปลาย
เป็นสีเขียวขอบจักเป็นฝอย ผล รูปทรงกลม สีน้ำตาลอ่อน
การปลูก
ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด แต่ส่วนมากจะหาเมล็ดไม่เจอ มันเล็กมาก ต้องรอให้เมล็ดหล่นแล้วโตเป็นกล้าอายุประมาณ 3-4 สัปดาห์เสียก่อน จึงค่อยแยกไปลงกระถางภายหลัง
สรรพคุณ
ในเด็ก แก้ไข้ตัวร้อน โรคตาลทราง ขัดเบา เด็กตัวร้อน ๆ เย็น ๆ ไม่ยอมกินนม
คนทั่วไป รักษา แผลในปาก เหงือกบวม ปวดฟัน แก้ไข้ตัวร้อน โรคตาลทราง แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ปวดท้องโดยช่วยขับลม แก้ฝี แก้ปวดบวม แก้ผื่นคัน
วิธีการใช้
1. เด็กที่มีอาการไข้ ตัวร้อน หรือโรคตาลทราง หรือเด็กตัวร้อน ๆ เย็น ๆ ไม่ยอมกินนม ใช้ใบธรณีสารมาตำให้ละเอียดแล้วผสมกับพิมเสนพอสมควร แล้วใช้ยานี้กวาดคอ
2. อาการขัดเบาในเด็ก ให้ใช้ต้นฝนทาที่ท้อง
3. พิษฝีอักเสบ ให้ใช้ต้นฝนทา
2. ผู้ใหญ่ที่ท้องอืดท้องเฟ้อ ปวดท้อง ใช้ต้นและรากต้มน้ำกินเป็นยาขับลมได้
3. แก้เหงือกบวม ปวดฟัน แก้ปวดบวมและผื่นคันตามร่างกาย แก้ฝี ให้ใช้ใบตำพอกบริเวณที่เป็น
ความเป็นมงคลของว่านธรณีสารตามคติคนโบราณ
คนโบราณยกให้เป็นไม้มงคลชั้นสูง โดยเชื่อว่าว่านธรณีสารสามารถแผ่อิทธิคุณคุ้มครองอาณาบริเวณนั้นให้รอดพ้นจากมนต์ดำ ความจัญไรได้อย่างสบาย และนิยมเอาใบและก้านมาใช้ประพรมน้ำมนต์เพื่อปัดรังควาญ
ที่มา :
1. อุณมิลิต ว่านธรณีสาร
2. bloggang lindleyi ธรณีสาร
3. ไทยเกษตรศาสตร์ สมุนไพร ธรณีสาร
|