สาระน่ารู้ ประจำเดือน กับเรื่องราวดีๆ
พร้อมประโยชน์เกี่ยวกับผักและผลไม้
และทางเลือกใหม่ สำหรับสมาชิก
ที่รักสุขภาพ ...

ซอสจากลูกตำลึง
           ตำลึง ผักที่มักขึ้นเป็นเถาเลื้อยอยู่ตามรั้วบ้านคุณนั้น คุณจะรู้ไหมว่า แท้จริงแล้วมันกินได้แทบจะทุกส่วน หลายคนอาจรู้ว่าสามารถนำใบมาทำเป็นอาหารได้ แต่นอกจากนี้ในสมัยก่อน คนนิยมนำลูกตำลึงที่ยังไม่สุกมาทำอาหารหลายอย่างเช่น ดอกผักเสี้ยน แกงคั่วลูกตำลึง เอามาทำเป็นของหวานอย่างลูกตำลึงแช่อิ่มก็ดี แต่สำหรับลูกตำลึงแก่ที่มีผลสีแดงแล้วนั้น ส่วนใหญ่คนไม่รู้ว่าจะนำมาทำอะไร ก็จะปล่อยทิ้งเป็นอาหารนก กา ไปซะมากกว่า แต่นี่เองที่เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ อาจารย์พงษ์ศักดิ์ ผู้คร่ำหวอดอยู่ในวงการอาหารมานาน สังเกตเห็นว่า ทำไมนกถึงกินได้ จึงได้ลองนำมาชิมรสชาติดู จึงพบว่า มันมีรสเปรี้ยว ๆ หวาน ๆ คละเคล้ากันไป ตลอดจนเนื้อที่มีความข้น จึงคิดว่าน่าจะสามารถนำมาทำซอสได้ คือ การทำซอสจากลูกตำลึง แทนซอสมะเขือเทศนั่นเอง

       ว่าแล้ว การทำซอสจากลูกตำลึงจึงเกิดขึ้น โดยเตรียมวัตถุดิบและมีวิธีทำดังนี้
 
           1. นำลูกตำลึงสุก ๆ ไปล้างในน้ำเปล่าและน้ำเกลือให้สะอาด

           2. นำลูกตำลึงไปครูดกับตะแกรงเพื่อสกัดเนื้อเอาเนื้อออกมา เสร็จแล้วพักเอาไว้

           3. ทำส่วนผสมของซอส โดยเริ่มจากนำพริกชี้ฟ้า กระเทียมดอง เยาะเกลือ มาโขลกให้เข้ากัน

           4. เริ่มขั้นตอนในการปรุงรส นำน้ำส้มสายชู น้ำตาล มาเทลงในหม้อตั้งไฟ เคี่ยวให้เข้ากัน ให้หมดกลิ่นน้ำส้มสายชูก่อน

           5. จากนั้นนำส่วนผสมของซอสที่โขลกไว้และลูกตำลึงสกัดเป็นเนื้อ แล้วเทลงไปในหม้อปรุงรสที่ตั้งไฟไว้

           6. เคี่ยวให้เนื้อเข้ากันจนมีความข้น
 

           แต่ในวันนี้เราไม่ได้ทำซอสเพียงอย่างเดียว เราจะทำเมนูเพื่อจะได้ลิ้มลองรสชาติของซอสไปด้วยนั่นก็คือ ปลาอบราดซอสลูกตำลึง มาดูกันว่าวิธีการเป็นอย่างไร แล้วเข้าครัวไปพร้อมกันเลย
 
           1. เริ่มจากล้างปลากระพงให้สะอาด นำมาแล่เป็นชิ้น ๆ ให้บางเข้าไว้ ก่อนโรยเกลือ โรยพริกไทยเพื่อดับคาว ใส่น้ำมันนิดนึงเพื่อเพิ่มไขมัน

           2. นำเนื้อปลาที่เตรียมไว้เข้าเตาอบ ที่อุณหภูมิประมาณ 350 องศา อบไว้ 10 นาที

           3. จากนั้นทำซอสที่จะราดเนื้อปลา ตั้งกระทะ ใส่เนย ใส่แป้งสาลีลงไปเพื่อให้มีความข้น

           4. ใส่ถั่วขาวถั่วแดง หรือจะเป็นถั่วชนิดอื่นก็ได้ ใส่ลงไป ก่อนเทซอสลูกตำลึงลงไป คนให้ข้น

           5. เมื่อปลาพร้อมแล้ว ก็นำออกมาราดด้วยน้ำราดที่ทำจากซอสลูกตำลึง
 
           แค่นี้ก็ได้อาหารจานร้อน ๆ พร้อมเสิร์ฟกินข้าวสวยหอม ๆ สัมผัสลิ้นแล้วได้ลิ้มลองรสชาติของความเข้มข้น ของซอสจากลูกตำลึง ที่เราปรุงรสเปรี้ยวหวานเผ็ดตามที่เราชอบได้ หลังจากกินอาหารคาวไปแล้ว เราก็มาต่อกันด้วยของหวานล้างปากกันหน่อย ของหวานที่ว่านี้ก็ไม่ใช่อะไร นั่นก็คือ ลูกตำลึงอ่อนแช่อิ่ม ของหวานกินเล่นที่ทำจากลูกตำลึงเช่นกัน เรามาดูวิธีทำกันเลย

 
            1. นำลูกตำลึงอ่อน ไปลวกให้นิ่ม เป็นเคล็ดลับสำคัญที่ทำให้แยกเมล็ดออกจากลูกตำลึงได้ง่ายขึ้น

           2. ล้างลูกตำลึงด้วยน้ำเปล่าให้สะอาดก่อนนำไปแช่สารส้มไว้ 2 คืน เพื่อให้ลูกตำลึงแข็ง กรอบ

           3. จากนั้นแช่น้ำเปล่าทิ้งไว้อีกสองคืนเพื่อล้างสารส้มออกให้หมด

           4. เมื่อพร้อมก็ตั้งกระทะ ต้มน้ำให้เดือด เทลูกตำลึงลงไป เทน้ำตาลทรายลงไปในอัตรา น้ำตาลทราย 1 กิโลกรัมต่อลูกตำลึง 1 กิโลกรัม

           5. คนเข้าด้วยกันด้วยไฟอ่อน ๆ ประมาณสองชั่วโมง จนลูกตำลึงเริ่มมีสีใส
 
           จากลูกตำลึงอ่อนที่หลายคนคิดว่ากินไม่ได้ ปล่อยทิ้งขว้าง ในตอนนี้ก็กลายมาเป็นของหวานกินเล่น ลูกตำลึงแช่อิ่ม ที่สามารถหาวัตถุดิบได้ง่ายใกล้ ๆ บ้านนี่เอง ขอขอบคุณข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม


 

 

 
 


CopyRight 2007.
Thai Fresh Market | support@thaifreshmarket.net
powered by i.oum